MITSUBISHI ATTRAGE

ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต กว้างกว่า ใช้ชีวิตได้เต็มกว่าที่เคย

เบาะหนังสังเคราะห์ดีไซน์พิเศษและหัวเกียร์หุ้มหนัง* พร้อมภายในตกแต่งวัสดุแบบ Piano Black และ Carbon Print

*เฉพาะรุ่น SMART

ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ)*

เป็นระบบเสริมความปลอดภัย โดยระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็วพร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน

*เฉพาะรุ่น SMART

*เฉพาะรุ่น SMART

ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์สปอร์ต

*เฉพาะรุ่น SMART

ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT

ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล ทำงานควบคู่กับระบบ INC ที่ช่วยควบคุมและตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติในขณะรถหยุดนิ่งและเหยียบเบรกในตำแหน่งเกียร์ “D” ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น
 
INVECS II (INTELLIGENT AND INNOVATIVE VEHICLE ELECTRONIC CONTROL SYSTEM) ระบบควมคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS II ช่วยวิเคราะห์และจดจำลักษณะการขับขี่ เพื่อนำไปประมวลผลการเปลี่ยนเกียร์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.2 ลิตร

78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และใหม่ด้วย ROLLER CAMSHAFT ที่ช่วยลดการเสียดทานของเครื่องยนต์ พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (MITSUBISHI INNOVATIVE TIMING ELECTRONIC CONTROL SYSTEM) ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม

รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด

ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

จากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการตาม Combined Mode ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.101 Rev.3

หมายเหตุ: ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตาม Combined Mode ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.101 Rev.3 ทดสอบที่ Mtsubishi Technical Center ประเทศญี่ปุ่น โดยหน่วยงานทดสอบ VINCOTTE nv ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2562

อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 100 กรัม/กิโลเมตร

จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่วัดตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.101 Rev.3

หมายเหตุ: ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการตาม Combined Mode ที่ระบุไว้ในข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.101 Rev.3 ทดสอบที่ Mtsubishi Technical Center ประเทศญี่ปุ่น โดยหน่วยงานทดสอบ VINCOTTE nv ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2562

EURO 5 STANDARD

ผ่านการรองรับมาตราฐานมลพิษอยู่ในระดับ EURO 5 ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.83 Rev.4